Frequent questions & answers

ข้อมูลที่น่ารู้และเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศ “แอลุส” คำถามที่พบบ่อย

ก. เกี่ยวกับ “แอลุส” สำหรับรถยนต์

ข. เกี่ยวกับอากาศโดยทั่วไป

ค. คำอธิบายเกี่ยวกับหลักการทำงาน

​

ก. เกี่ยวกับ “แอลุส” สำหรับรถยนต์

1. ห้องขนาดไหนถึงเหมาะกับการใช้งาน “แอลุส”?

แอลุสสำหรับรถยนต์ ถูกออกแบบมาเพื่อห้องโดยสารที่มีขนาด 2.5 ถึง 3 ลูกบาศก์เมตร  ซึ่งแอลุสสามารถหมุนเวียนฟอกอากาศให้สะอาดได้ 5 ถึง 6 รอบในหนึ่งชั่วโมง หรือหนึ่งรอบในทุก 10 นาที 

สำหรับห้องทำงานหรือห้องนอนขนาด 30 ลูกบาศก์เมตร (พื้นที่ 12 ตารางเมตร) การวางเครื่องแอลุสให้หันเข้าหาผู้ใช้งานจะทำให้ผู้ใช้สามารถหายใจเอามวลอากาศที่ฟอกสะอาดแล้วได้ในทันทีที่เปิดเครื่อง จากนั้นการฟอกอากาศทั้งห้องจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องภายในเวลาสองชั่วโมง

2. มลพิษในอากาศประเภทไหนที่แอลุสสามารถฟอกได้?

มลพิษหลัก ได้แก่ ไอละออง เชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา ฝุ่น และอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.05 ไมครอน

มลพิษรอง ได้แก่ กลิ่นไอ ไอก๊าซชีวภาพ ไอระเหยของสารเคมี และก๊าซพิษที่ไม่มีสี เช่น ฟอร์มัลดีไฮน์

ไส้กรองเฮปา HEPA H13 ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐาน ISO EN 182-3:2009 มีความสามารถในการกรองอนุภาคขนาด 0.1-0.3 ไมครอน (รวมถึงกลุ่มอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่า) ได้อย่างน้อย 99.95%

หมายเหตุ: เส้นผมของคนเรามีเส้นผ่าศูนย์กลางโดยประมาณ 80 ไมครอน; ไส้กรองอากาศในรถยนต์ มาตรฐาน F7/F8 สามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดใหญ่กว่า 10 ไมครอนขึ้นไป

3. เครื่องฟอกอากาศแอลุสสามาถกรองเชื้อไวรัสโควิด (Corona viruses, COVID-19) ได้หรือไม่?

เชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) สามารถแพร่กระจายผ่านทางละอองลอย (aerosols) ที่ออกมากับลมหายใจของผู้มีเชื้อไวรัสโควิด ละอองเหล่านี้สามารถถูกฟอกได้ด้วยไส้กรองประสิทธิภาพสูงเฮปา HEPA H13 ด้วยเหตุนี้ การฟอกอากาศจึงสามารถกรองเชื้อไวรัสโควิดได้ 

เครื่องฟอกอากาศแอลุส มีไส้กรองเฮปา HEPA H13 ซึ่งสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กที่ลอยอยู่ในอากาศด้วยประสิทธิภาพสูงถึง 99.95% สามารถกรองเชื้อไวรัสโคโรนาซึ่งมีขนาด 0.1 ถึง 0.12 ไมครอน (หรือ 100 ถึง 120 นาโนเมตร) รวมถึงอนุภาคชนิดอื่นๆ เช่น ละอองฝอย (droplets) ขนาด 2-3 ไมครอน ที่ออกมากับลมหายใจ (ข้อมูล Federal Environment Agency)

หลังจากการกรองเชื้อไวรัสจะถูกทำลายด้วยรังสียูวี (UV-A และ UV-C) เมื่ออากาศถูกปฏิกริยาแสง (photocatalysis) จากสารเคลือบ titanium dioxide ซึ่งกระบวนการฟอกอากาศหลายขั้นตอน (multi-stage filter system) ของแอลุสนี้ได้ทำการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ในประเทศเยอรมนี และได้รับการพิสูจน์รับรองผ่านห้องปฏิบัติการ HygCen Laboratory ว่าสามารถกำจัดหรือฆ่าไวรัสได้ถึง 99.99%

4. ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่จึงจะเห็นผลว่าแอลุสได้ทำการฟอกอากาศให้ดีขึ้น?

เพียงเปิดเครื่องให้แอลุสทำการฟอกอากาศในเวลาไม่กี่นาทีก็เห็นผล สามารถวัดค่าได้ด้วยเครื่องมือตรวจวัดอนุภาคในอากาศที่ใช้ทั่วไป

5. คุณสามารถสังเกตรับรู้ผลของการฟอกอากาศด้วยแอลุสได้อย่างไร?

เชื้อโรคและอนุภาคของมลพิษที่อยู่ในอากาศ เช่น ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา ฝุ่นขนาดเล็ก เช่น PM2.5 และมลพิษอื่นๆ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและมักจะไม่มีกลิ่น ดังนั้นคุณภาพของอากาศที่ดีหลังจากผ่านการฟอกแล้วสามารถรับรู้ได้จากการวัดค่าด้วยเครื่องมือตรวจวัดเท่านั้น

มีรายงานว่าผู้ป่วยด้วยโรคภูมิแพ้รู้สึกหายใจโล่งสะดวกขึ้นได้ทันทีอย่างชัดเจนหลังจากเริ่มใช้เครื่องแอลุสในระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากคุณภาพอากาศสามารถวัดและพิสูจน์ได้ จึงเชื่อได้ว่าแอลุสมีประสิทธิภาพสูงในการฟอกอากาศและมีผลดีต่อสุขภาพ

6. แอลุสใช้ไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟชนิดใดบ้าง?

แอลุสมาพร้อมกับตัวแปลงไฟ 12 โวลต์ ให้เป็น (12V, 1A) และจากไฟบ้าน 230 โวลต์ให้เป็น (Input: 230V~, Output: 12V, 1A)

​

7. แอลุสมีเสียงดังแค่ไหนขณะใช้งาน?

ตามมาตรฐานการวัดระดับเสียงโดยตั้งห่างจากเครื่องขณะทำงานระยะหนึ่งเมตร แอลุสมีเสียงดังขณะทำงานในระดับไม่เกิน 45 เดซิเบล หรือ 33-45 dB(A)

8. แอลุสมีขนาดสัดส่วนและน้ำหนักเท่าไหร่?

แอลุสมีขนาดสัดส่วน ยาวxกว้างxสูง 297x90x90 มิลลิเมตร (สูง 113 มิลลิเมตรเมื่อรวมขาตั้ง) และมีน้ำหนัก 880 กรัม

9. การติดตั้งแอลุสในรถยนต์ทำอย่างไร?

การติดตั้งแอลุสมีขั้นตอนง่ายๆ ดูวิธีการอธิบายได้จากวิดีโอ https://aelus.de/manual/ 

10. การใช้งานแอลุสทำอย่างไร?

แอลุสทำงานด้วยปุ่มสัมผัสเรืองแสงและมีล็อคป้องกันเด็ก ดูวิธีการอธิบายได้จากวิดีโอ https://aelus.de/manual/

11. แอลุสมีมาตรฐานการทำงานและผ่านการทดสอบอะไรบ้าง?

แอลุสได้รับมาตรฐาน CE และมาตรฐานความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์จาก TUV Sud ได้มาตรฐานการฆ่าเชื้อไวรัสโดย HygCen (ISO 21702 หมายเลขผลการทดสอบ: 2021-0203)

ไส้กรองเฮปา HEPA H13 ผ่านการทดสอบและรับรองโดย KITECH (EN 1822-3:2009 หมายเลขผลการทดสอบ C20N230834) และรับรองโดย YANOU (EN 1822-3:2009 หมายเลขรายงาน YNJC22021071405-1) ได้การยอมรับมาตรฐานการผลิตชิ้นส่วน OEM จากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายแห่ง ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของผู้โดยสาร กรณีเกิดอุบัติเหตุ ทดสอบโดย DEKRA ตามข้อกำหนด UN ECE-R17 หมายเลขรายงาน: 202150917 รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัยยานยนต์ระดับนานาชาติอื่นๆ

12. นอกจากใช้ได้ในรถยนต์ แอลุสสามารถใช้งานในที่อื่นได้หรือไม่?

แอลุสเป็นเครื่องฟอกอากาศที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถติดตั้ง ถอดและเคลื่อนย้ายเพื่อใช้งานในที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย  สามารถนำไปใช้ได้ทุกที่ อย่างในขณะเดินทาง ในที่พักอาศัย เช่นบ้านหรือโรงแรม และในห้องที่ทำงาน เพราะแอลุสมาพร้อมกับหม้อแปลงไฟฟ้าและกระเป๋าหิ้วทำให้สะดวกในการนำแอลุสไปใช้ในที่ต่างๆ

13. แอลุสต้องเปลี่ยนไส้กรองอากาศบ่อยครั้งแค่ไหนและอย่างไร?

ไส้กรองเฮปา HEPA H13 ของแอลุสมีอายุการใช้งานได้นานถึง 1,200 ชั่วโมง จึงถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนใหม่เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับอุปกรณ์ภายในเครื่องซึ่งมีระบบการกรองอนุภาคและฆ่าเชื้อโรคต่างๆ เพื่อรักษาการรับประกันคุณภาพจากผู้ผลิต  ซึ่งหากแอลุสมีการใช้งานหนักต่อเนื่องในสภาวะอนุภาคมลพิษในอากาศสูง เราขอแนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองเฮปาก่อนครบกำหนด 1,200 ชั่วโมง

14. เราจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนไส้กรองเฮปา?

เมื่อสัมผัสปุ่มเปิดเครื่องแอลุสแล้วมีไฟกระพริบสีแดงติดต่อกันสี่ครั้ง จากนั้นไฟสีแดงจะสว่างค้างอยู่ตามด้วยเสียงเตือนดังขึ้นสามครั้งสามรอบ นั่นคือถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนไส้กรองเฮปา หากมีการใช้งานไส้กรองเกินอายุเวลา 1,200 ชั่วโมงเครื่องแอลุสจะหยุดทำงานเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับอุปกรณ์ภายใน

15. ไส้กรองเฮปาที่ใช้แล้วจะกำจัดหรือทิ้งอย่างไร?

ไส้กรองเฮปาสามารถทิ้งได้ในถังขยะประเภทขยะแห้งทั่วไป

16. ไส้กรองเฮปาล้างน้ำทำความสะอาดได้หรือไม่?

วัสดุกรองประสิทธิภาพสูงที่ใช้ในไส้กรองเฮปา มีความคล้ายกับวัสดุหน้ากาก FFP2 หรือ N95 ไม่สามารถล้างทำความสะอาดได้ เยื่อวัสดุของไส้กรองเฮปา HEPA H13 ถูกออกแบบเพื่อสกัดกั้นอนุภาคขนาดเล็ก มลพิษ และเชื้อโรค ให้อยู่ในเยื่อไส้กรอง  หากมีการซักล้างไส้กรองเฮปา โครงสร้างเยื่อไส้กรองจะเสียหายจนไม่สามารถทำการกรองอย่างมีประสิทธิภาพได้อีกต่อไป

17. สามารถติดต่อซื้อไส้กรองเฮปาสำหรับแอลุสได้ที่ไหน?

ท่านสามารถติดต่อซื้อไส้กรองเฮปาได้จาก หจก.หนองบัวทูนนิ่ง ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแอลุสและไส้กรองผู้เดียวในประเทศไทย หรือได้จากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ คือ

18. เครื่องฟอกอากาศแอลุส AELUS สามารถทำความสะอาด-ฟอกอากาศให้สะอาดได้อย่างไร?

เครื่องฟอกอากาศแอลุสมีการฟอกทำความสะอาดอากาศในสองขั้นตอน คือ

1) ไส้กรองประสิทธิภาพสูงเฮปา HEPA H13 ในแอลุสเป็นไส้กรองชนิดที่ใช้ในห้องสะอาดปลอดเชื้อในโรงพยาบาล สามารถกรองสิ่งสกปรกมลพิษขนาดเล็กละเอียดที่สุด ได้แก่ อนุภาคฝุ่น ก๊าซ และละอองลอย ที่ออกมาจากระบบทำความเย็นเครื่องปรับอากาศ เช่นในรถยนต์ที่มักมีสภาพอากาศอุ่นและชื้น เป็นแหล่งของเชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อราต่างๆ ที่เพาะและกระจายตัว

2) ช่องทำปฏิกิริยาแสง photocatalytic ในแอลุสสามารถฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ในอากาศที่ผ่านจากไส้กรองเฮปา ได้อย่างหมดจด ช่องปฏิกิริยาแสงนี้ทำความสะอาดได้ด้วยตัวเองจึงไม่ต้องเปลี่ยนอะไหล่ ซึ่งการฆ่าเชื้อโรคอย่างหมดจดด้วยปฏิกิริยาแสงนี้เป็นข้อได้เปรียบและคุณประโยชน์ที่โดดเด่นของแอลุส ในการฟอกอากาศในรถยนต์ ต่างจากเครื่องฟอกอากาศอื่นๆ ที่มีอยู่ในโลก

19. เครื่องฟอกอากาศแอลุส แตกต่างจากเครื่องฟอกอากาศอื่นๆ อย่างไร?

แอลุส ออกแบบและผลิตโดยผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในโลกยานยนต์ จึงใช้งานกับรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทนทานกับสภาพอากาศที่อุณหภูมิ ความชื้น รังสียูวี ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด รวมถึงการสั่นสะเทือนของรถยนต์

แอลุส ผ่านมาตรฐานที่เข้มงวดของอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของผู้ใช้งาน รับรองโดยสถาบันทดสอบมาตรฐานเพื่อยานพาหนะชั้นนำของประเทศนานาชาติและเยอรมนี อีกทั้งได้รับรางวัลอันทรงเกียรติผลงานนวัตกรรมและการออกแบบที่ล้ำหน้าจากสถาบันนานาชาติหลายแห่ง

แอลุสใช้งานได้ง่ายสะดวกในการเคลื่อนย้ายนำไปใช้งานในที่ต่างๆ ที่คุณต้องการ ด้วยรูปแบบและคุณสมบัติที่ล้ำสมัยใช้นวัตกรรมกรรมวิธีและระบบฟอกอากาศสองขั้นตอนประสิทธิภาพสูง  ตัวเครื่องมีขนาดกระทัดรัดน้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายได้ง่าย

มาตรฐานข้อบังคับทางเทคนิคของสถาบัน DEKRA, TUV รวมทั้งของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ จะรับรองความปลอดภัยของผู้โดยสารกรณีเกิดอุบัติเหตุ หากเครื่องฟอกอากาศติดตั้งอยู่บริเวณหมอนพิงศรีษะ ก็ต่อเมื่อเครื่องฟอกนั้นมีน้ำหนักไม่เกิน 1,000 กรัม และต้องผ่านการทดสอบตามมาตรการ ECE17

ข้อบังคับทางเทคนิคยังระบุด้วยว่าเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กตั้งไว้ในช่องวางเครื่องดื่มอาจเป็นวัตถุที่พุ่งเป็นอันตรายกรณีที่รถถูกชนจากด้านหลัง  เครื่องฟอกอากาศน้ำหนัก 600 กรัมในช่องวางเครื่องดื่มสามารถกลายเป็นวัตถุที่มีแรงกระแทกเทียบเท่าน้ำหนัก 50 กิโลกรัมเนื่องจากการชน ทำอันตรายก่อความบาดเจ็บรุนแรงให้กับผู้โดยสารในรถได้

20. เครื่องฟอกอากาศแอลุส ก่อให้เกิดก๊าซโอโซนที่เป็นอันตรายหรือไม่?

แอลุส ได้รับการพิสูจน์และรับรองจากสถาบันทดสอบ TUV Sud แล้วว่า ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดก๊าซโอโซน

21. รังสียูวี-ซี UV-C สามารถเล็ดลอดออกมาจากเครื่องแอลุสได้หรือไม่?

แอลุส ได้รับการพิสูจน์และรับรองจากสถาบันทดสอบ TUV Sud แล้วว่าสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ไม่มีการรั่วหรือเล็ดลอดของรังสียูวี

22. ในบรรจุภัณฑ์ของแอลุส มีอะไรบ้าง?

เครื่องฟอกอากาศแอลุสสำหรับรถยนต์

ไส้กรองเฮปา HEPA H13 พร้อมใช้ในเครื่อง

สายเสียบไฟที่จุดบุหรี่ในรถ 12V

ตัวแปลงและสายเสียบไฟบ้าน 220V สำหรับใช้งานในอาคาร

สายรัดสำหรับติดตั้งแอลุสหลังพนักพิงศรีษะ

สายรัดยาวสำหรับติดตั้งแอลุสบนเบาะผู้โดยสาร

แถบรัดสำหรับเก็บสายรัด

ถุงผ้าสำหรับเคลื่อนย้ายแอลุส

คู่มือการใช้งาน

คลิปสำหรับจัดเก็บสายไฟสองตัว

23. แอลุสถูกรับรองว่าสามารถใช้งานในรถยนต์ได้หรือไม่?

เครื่องฟอกอากาศแอลุสได้รับการรับรองว่าสามารถใช้งานได้ในยวดยานพาหนะที่สามารถติดตั้งใช้งานได้ตามที่ระบุอยู่ในคู่มือการใช้งาน

24. แน่ใจได้อย่างไรว่าแอลุสสามารถฟอกอากาศให้สะอาดกำจัดมลพิษและเชื้อโรคตามคุณสมบัติที่อ้างไว้?

ท่านมั่นใจได้ว่าแอลุสสามารถฟอกอากาศให้สะอาดกำจัดมลพิษและเชื้อโรคได้จริง เพราะไส้กรองเฮปาและเทคโนโลยีปฏิกิริยารังสียูวีที่มีอยู่ในแอลุส ได้ถูกทดสอบและรับรองโดยสถาบันห้องปฏิบัติการอิสระชั้นนำที่มีชื่อเสียง เช่น KITECH (EN 1822-3:2009 Test ID C20N230834), YANOU (EN 1822-3:2009 Report ID YNJC22021071405-1) และ HygCen (ISO 21702 Test ID 2021-0203)

25. ควรวางตำแหน่งติดตั้งแอลุสอย่างไรเพื่อให้แอลุสสามารถทำงานได้ผลดีที่สุด?

ที่บ้าน: แอลุสสามารถฟอกอากาศในห้อง (ขนาด 12 ตร.ม. หรือ 30 ลบ.ม.) ได้ทั้งหมดภายในเวลาสองชั่วโมง

ในรถยนต์: เมื่อติดตั้งอยู่บริเวณหลังพนักพิงศรีษะของเบาะแถวหน้า หรือแถวหลัง แอลุสสามารถฟอกอากาศในรถยนต์ (ขนาดห้องโดยสารประมาณ 12 ลบ.ม.) ได้ทั้งหมดในเวลา 10 นาที (5-6 รอบ/ชั่วโมง)

26. แอลุสมีการบำรุงรักษาอย่างไร?

ไส้กรองเฮปาถึงเวลาเปลี่ยนเมื่อผ่านการใช้งานแล้ว 1,200 ชั่วโมง ภายนอกตัวเครื่องแอลุสทำความสะอาดได้ด้วยผ้าชื้นน้ำสะอาด หรือด้วยสารเคลือบผิว Surface+ ผลิตภัณฑ์เพื่อรักษาสุขอนามัยของพื้นผิวสัมผัส จาก Rolfhartge GmbH ผู้ออกแบบและผลิตเครื่องฟอกอากาศแอลุส ประเทศเยอรมนี

27. ในแอลุสมีถ่านไฟ/แบตเตอรีหรือไม่?

แอลุสไม่มีถ่านไฟ/แบตเตอรี แอลุสทำงานด้วยไฟฟ้าจากปลั๊กไฟที่จุดบุหรี่ 12V ในรถยนต์ หรือจากไฟบ้านโดยผ่านตัวแปลงไฟ 220V และสายที่ให้มาพร้อมในกล่อง จึงสามารถย้ายแอลุสไปใช้งานได้ทุกที่ เช่น ขณะเดินทาง ที่ห้องโรงแรม ที่ทำงาน หรือที่บ้าน  ทั้งนี้ แบตเตอรีที่เก็บประจุไฟมากพอสำหรับใช้งานแอลุสอย่างต่อเนื่องจำต้องมีขนาดหรือน้ำหนักมากจึงไม่เหมาะกับการใช้งาน ประเด็นสำคัญคือ เครื่องฟอกอากาศจะสามารถให้ประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้เมื่อเครื่องตั้งอยู่ในอาคาร ห้องหรือพื้นที่ห้องปิด แบตเตอรีจึงไม่มีความเหมาะสม

28. ทำไมถึงต้องมีการรับรองความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารกรณีรถยนต์เกิดอุบัติเหตุ?

เครื่องฟอกอากาศอื่นๆ ที่วางไว้บริเวณคอนโซลกลางหรือในที่วางเครื่องดื่มโดยไม่รัดกุมอย่างปลอดภัยสามารถกลายเป็นวัตถุที่พุ่งด้วยความเร็วสูงก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้โดยสารได้หากรถยนต์ถูกชนจากด้านหลัง ความหน่วงที่เกิดจากการชนท้ายสามารถเปลี่ยนเครื่องฟอกอากาศที่มีน้ำหนัก 600 กรัม ให้กลายเป็นแรงกระแทกเทียบเท่าน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ทำให้ผู้โดยสารบาดเจ็บถึงขั้นสาหัสได้ 

https://www.fuehrerscheine.de/verkehrsrecht/ladungssicherung-pkw/#beispieletoedliche-geschosse-im-auto, accessed November 23, 2021

หลักการเดียวกันนี้สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์หรือวัตถุอื่น เช่น เครื่องฟอกอากาศที่มีน้ำหนัก 1,000 กรัม หรือมากกว่า ไม่ได้ติดตั้งอย่างปลอดภัยวางไว้ในรถยนต์ขณะเกิดอุบัติเหตุมีการชน เสี่ยงให้เกิดความบาดเจ็บเสียหายแก่ผู้โดยสารได้ จึงต้องระวังเมื่อเดินทางในรถยนต์ รถโดยสาร หรือรถเช่า มีอุปกรณ์ไม่ได้ติดตั้งแต่เดิมมากับตัวรถ อาจมีผลในการคุ้มครองจากผู้ให้เช่าหรือผู้ให้ประกัน กรณีมีการแจ้งเพื่อเอาประกันค่าเสียหายของทรัพย์สิน หรือค่ารักษาพยาบาลอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น

ข. เกี่ยวกับอากาศโดยทั่วไป

29. เครื่องฟอกอากาศมีความจำเป็นจริงหรือ?

มลพิษในอากาศเป็นเหตุสำคัญที่ทำอันตรายต่อสุขภาพ  องค์การอนามัยโลกประเมินว่า แต่ละปีกว่าสามล้านคนทั่วโลกต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเพราะโรคที่เกิดจากมลพิษในอากาศที่มีอยู่ทั่วไป ได้แก่ ฝุ่นขนาดเล็ก สารก่อภูมิแพ้ เช่น เกษร ฝุ่น แมลงขนาดเล็ก เชื้อโรค อย่างไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา  ผู้โดยสารรถยนต์โดยมากต้องสูดอากาศพิษที่มีอนุภาคเชื้อราที่ออกมาจากระบบปรับอากาศของรถยนต์ ซึ่งเป็นภัยต่อสุขภาพอย่างมากแต่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบหรือเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญ  แน่นอนว่าเป้าหมายสำคัญคือเราต้องทำอากาศพิษให้สะอาด  ปลอดภัยสำหรับให้เราสูดหายใจ  ยิ่งเมื่อคำนึงถึงเชื้อไวรัส ก็ได้มีการพิสูจน์แล้วว่าการลดจำนวนเชื้อไวรัสในอากาศสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้อย่างแน่นอน นี่คือเหตุผลสำคัญของความจำเป็นในการใช้เครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูงอย่าง แอลุส

30. อากาศในแถบประเทศยุโรปรวมทั้งประเทศไทย เป็นพิษมากหรือ ถึงกับต้องใช้เครื่องฟอกอากาศ?

องค์การเพื่อสิ่งแวดล้อมของยุโรป (European Environment Agency) จัดให้มลพิษทางอากาศเป็นความเสี่ยงสูงที่สุดต่อสุขภาพ ข้อมูลจากปี 2561 รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากมลพิษอากาศมากถึง 63,100 รายต่อปี เทียบเท่ากับ 710,900 ปีจากเวลาของชีวิตที่สูญเสียไป สาเหตุจากการสูดอากาศพิษที่มีอนุภาคฝุ่นประเภท PM2.5 (ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน) เข้าสู่ร่างกาย

ในประเทศไทย ข้อมูลจากปี 2564 ระบุว่า มลพิษทางอากาศเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของประชาชนกว่า 14,000 รายในหกจังหวัดที่ได้รับข้อมูล ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรสาคร ขอนแก่น และระยอง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจราว 149,367 ล้านบาท ถึงแม้ว่าประเทศไทยได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-2019 เป็นเวลานับเดือน ปัญหามลพิษทางอากาศกลับไม่ได้ลดน้อยลง และกำลังคุกคามสุขภาพของประชาชนและระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

31. การวัดค่ามลพิษอนุภาคฝุ่น PM2.5 มีกำหนดมาตรฐานอย่างไร?

องค์การอนามัยโลกแนะนำว่ามลพิษอนุภาคฝุ่น PM2.5 ในอากาศ ค่าเฉลี่ยต่อปีไม่ควรเกิน 10 ไมโครกรัมต่อหนึ่งลูกบาศก์เมตร และค่าเฉลี่ยต่อวัน (24 ชั่วโมง) สูงสุดไม่เกิน 25 มคก./ลบ.ม.

บางพื้นที่เสี่ยงมลพิษอากาศในประเทศไทย ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของ PM2.5 ตรวจวัดได้ 30-58 มคก./ลบ.ม. ซึ่งพบว่าสูงเกินค่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกแนะนำถึงสองเท่าตัว

32. สภาพอากาศที่เป็นพิษจะกลับมาดีขึ้นหรือไม่ หากผู้คนเปลี่ยนมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก?

หากมีการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจำนวนมากขึ้น แนวโน้มมีแต่จะทำให้ปัญหามลพิษฝุ่น PM2.5 เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่จะทำให้ปัญหาลดลงหรือหมดไป เหตุเพราะรถยนต์พลังไฟฟ้าปกติมีน้ำหนักมาก (เทียบกับรถยนต์ที่ใช้พลังงานสันดาป) ให้แรงบิดสูง และใช้ยางรถยนต์ที่มีขนาดหน้าสัมผัสแคบกว่า ซึ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุให้ยางมีการสึกหรอมากขึ้น ดังนั้นจึงก่อให้เกิดอนุภาคฝุ่นมากขึ้น สร้างมลพิษในอากาศมากขึ้น

ผลการศึกษาของ OECD ระบุว่า สัดส่วนของมลพิษที่ไม่ได้มาจากควันท่อไอเสีย (non-exhaust emissions ซึ่งคำนึงถึงมลพิษที่เป็นผลจากการใช้รถยนต์พลังไฟฟ้าด้วย) จะเพิ่มมากขึ้นอีกกว่า 53% ในช่วงปี พ.ศ. 2564 ถึง พ.ศ. 2574 จึงเป็นที่มาของเหตุผลว่าการเพิ่มปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนจะไม่ได้ช่วยให้สภาพอากาศที่เป็นพิษดีขึ้น (ข้อมูล OECD recommends regulation: Electric vehicles hardly better than combustion engines in terms of particulate matter, Automobilwoche)

33. ใครได้รับผลกระทบมากที่สุดจากอากาศที่เป็นพิษไม่บริสุทธิ์

พวกเราทุกคนได้รับผลกระทบจากอากาศพิษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กเล็ก ผู้ป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด คนป่วยทั่วไป และผู้สูงอายุซึ่งมีภูมิร่างกายต่ำ

ค. คำอธิบายหลักการทำงาน

34. อะไรคือการทำงานของหน่วยการทำงานในเครื่องแอลุสที่ได้รับสิทธิบัตรจากเยอรมัน

ไส้กรองเฮปา HEPA H13 และ รังสียูวี (UV-C LED) เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถรับประกันประสิทธิภาพการฟอกอากาศอย่างสมบูรณ์ได้ เพราะขนาดพื้นที่การฟอกที่เหมาะสมและการหมุนเวียนของอากาศภายในเครื่องมีส่วนสำคัญมากกับประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศ 

เนื่องจากรังสียูวีชนิดสารตะกั่ว (UV-C Mercury) ถูกสั่งให้เลิกใช้ในยานยนต์ และ รังสียูวีจากหลอดไฟ (UV-C LED lamp) มีประสิทธิภาพต่ำในการฆ่ากำจัดเชื้อโรค

แอลุส ได้รับสิทธิบัตรในการใช้กระบวนการปฏิกิริยาแสง (photocatalysis reaction) ร่วมกับหลอดไฟรังสียูวีเอและยูวีซี (UV-A + UV-C LED) และตัวกรองที่มีวัสดุเคลือบสาร titanium dioxide จึงสามารถทำลายย่อยสลายอินทรีย์วัตถุ อย่างเชื้อโรคและไวรัสได้อย่างสมบูรณ์

กระบวนการปฏิกิริยาแสงของแอลุสนี้ยังสามารถย่อยสลายสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile organic compounds หรือ VOCs)

และสารพิษจำพวกไนโตรเจนอ็อกไซด์ (NOx) ได้อีกด้วย 

การฟอกอากาศที่สามารถฆ่ากำจัดเชื้อโรคได้ดี มีประสิทธิภาพสมบูรณ์สูงสุด จึงจำเป็นต้องมีการทำงานร่วมกันขององค์ประกอบทั้งสามนี้ ซึ่งมีอยู่เฉพาะใน แอลุส เท่านั้น คือ

1) การกรองด้วยไส้กรองประสิทธิภาพสูง HEPA H13,

2) รังสียูวีเอและยูวีซี และ

3) สารเคลือบไทเทเนียมไดอ็อกไซด์

35. อะไรคือไส้กรองเฮปา HEPA H13?

ไส้กรองประสิทธิภาพสูงเฮปา หรือ High Efficient Particulate Air filters ถูกแบ่งประเภทตามลำดับของประสิทธิภาพการกรอง ซึ่งไส้กรอง HEPA H13 ได้รับการยอมรับว่าสามารถกรองอนุภาคขนาด 0.1 ถึง 0.3 ไมครอนที่ลอยอยู่ในอากาศ ได้ด้วยประสิทธิภาพสูงอย่างน้อยถึง 99.75%

36. หนึ่งหน่วยไมครอน 1 มีขนาดเท่าไหร่?

1 ไมครอน = 1 ไมโครเมตร = 1/1,000 มิลลิเมตร (เส้นผมคนเรามีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 80 ไมครอน)

37. อะไรคืออัตราไหลของอากาศ?

อัตราการหมุนเวียน-ฟอกอากาศ หมายถึง อัตราความสามารถในการหมุนเวียน-ฟอกอากาศต่อหนึ่งชั่วโมง  โดยองค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมของประเทศเยอรมนี (Germany Federal Environment Agency) แนะนำให้อากาศภายในห้อง มีอัตราการหมุนเวียน-ฟอกอากาศ 5-6 ครั้งต่อหนึ่งชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่าไวรัสและเชื้อโรคในอากาศจะลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

38. อะไรคือพื้นที่ผิวใช้งานของไส้กรอง?

พื้นที่ผิวไส้กรองคือพื้นที่ผิวรวมที่มีผลโดยตรงกับประสิทธิภาพของการกรอง-ฟอกอากาศ